Blythe Photo Obsession มาแย้ว >_< '

Start:	Jul 31, '09 09:00a
End:	Aug 24, '09

The Annual Blythe Photo Contest is calling for entries!
This year's title/theme is "Fashion".
The styling and situation is very important for a good photo.
You can mix and match any fashion item and even shoot Neo and Petite together if you want!

30 to 40 semi finalist winners will have their photos published in the annual Photo Contest winners postcard book!
WHO CAN ENTER?

Anyone.
ENTRY FEE

1,000 JPY per photo entered; there is no limit to the number of photos one contestant enters.
PHOTO SUBJECT

Any Neo or Petite Blythe will be accepted as the character in your photo.
The dolls may be photographed individually or together in a group.
All Blythe dolls produced by CWC and manufactured by Takara Tomy and e-revolution are eligible.
PHOTO SIZET

All entries must be 102 x 152mm (KG size). Digital photographs printed on photo paper are accepted in this size.
HOW TO ENTER

Please attach one copy of the Entry Form A to the back of each photo; also enclose a copy of Entry Form B in the envelope with 1,000 JPY in cash for each entry or pay by VISA or MASTERCARD.
Photos will not be returned.
Your entry must arrive by August 24, 2009.

Send to: CWC 4-3, 2F Sarugaku-cho, Shibuya-ku, Tokyo 150-0033 Japan
Attn: Blythe Photo Contest

DEADLINE

August 24, 2009.
30-40 finalists' photographs will be posted on the website from September 28 until October 30, 2009.
Please be sure to check the website for winner information; there will be no notification by telephone, e-mail or post!
Winners will be announced October 26, 2009.
WINNERS AND PRIZES

1) Miss Popularity (one winner)
Vote at the website for your favorite photo!
One vote per person.
The winner will receive a Limited Edition Neo Blythe (to be announced) and a 10,000 JPY gift certificate towards purchases made at Junie Moon.

2) Gina Garan's Choice (one winner)
Gina Garan's personal choice from the Finalists will win a CWC Limited Edition Petite Blythe (to be announced) and a 8 x 10 inch photo by Gina Garan.

3) Celebrity Choice (one winner)
The celebrity choice will win a Limited Edition Petite Blythe (to be announced) and 5,000 JPY gift certificate towards purchases made at Junie Moon.
Celebrity to be announced.

4) Junko Wong Choice (one winner)
Blythe's Creative Producer will select one photo to win a Limited Edition Petite Blythe (to be announced) and a 5,000 JPY gift certificate towards purchases made at Junie Moon.

The 30 to 40 finalists' photographs will be exhibited at Junie Moon shop in December 2009 and published in a postcard book.
All finalists will receive 5 copies of the "BLYTHE PHOTO OBSESSION" postcard book as the prize.

Copyright remains with the photographer, but CWC reserves the right to use these photographs for promotions, Blythe goods, and publicity print material on CWC owned websites and publications without compensation or seeking further permission.
By entering this contest, you are subject to all agreements on this form. "Blythe Photo Obsession" Blythe Photo Contest.
Inquiry : CWC

CWC 4-3, 2 F Sarugaku-cho, Shibuya-ku, Tokyo 150-0033 Japan
E-mail »
www.blythedoll.com (pc site) blythemobile.com (mobile site)
-------------------------------------------------------------------------------
ปีนี้ว่าจะลองส่งประกวดกะเค้าบ้าง เล่นน้องมาตั้งนาน ไม่เคยส่งดูซักทีเลย
ใครจะส่งรูปบ้างอ่ะ
โหลดใบสมัครที่นี่น้า
http://www.blythedoll.com/eng/special/photocon2009/index.html

งานแฮนด์เมด

วันนี้คุยกับแจงเกี่ยวกับเรื่องการทำชุดขายของพวกเรา ใน etsy.com

(ตอนนี้ที่ poppyw.etsy.com มีขายทั้งชุดของ LittleAmelie และ Dark Fairy)
บางทีเราก็รู้สึกท้อๆ เบื่อๆ กับคนไทยด้วยกันที่ไม่เข้าใจ
ไม่เห็นคุณค่าของงานแฮนด์เมด คนที่อยากได้ชุดสวยๆ งานเนี๊ยบๆ
แต่ไม่อยากจ่ายเงินเยอะ เพราะเห็นว่าเป็นงานคนไทยก็เลยคิดว่าถ้าคนไทยด้วยกันซื้อ
ก็น่าจะขายให้ราคาแบบเสื้อผ้าที่ขายตามสำเพ็งตัวละ 50-100 บาท
ปกติเวลาเราขายฝรั่งเราตั้งราคาชุด 12-28 $ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของชุดที่ทำ
ราคาเฉลี่ยเป็นเงินบาทรวมราคาค่าส่งออกนอกก็ตกประมาณ ตัวละ 400-1000 กว่าบาท
ซึ่งถ้าเทียบกับชุดยี่ห้อที่เราซื้อๆกันมันก็ประมาณนี้ ในขณะเดียวกัน ชุดที่เราทำแบบเดียวกัน
ถ้าขายคนไทยเราก็จะขายให้ในราคาที่ถูกกว่านั้นเยอะอยู่แล้ว 
ประเด็นที่คุยกันก็คือ มีคนไทยนึงเค้าเห็นงานของแจงกับเราในetsy.com
แล้วส่งข้อความมาขอซื้อในราคาคนไทย พอบอกราคาคนไทยไปก็ยังโดนบ่นมาว่า
“งานแฮนด์เมดราคาสูงจังเนอะ” มันเลยรู้สึกว่า ท้อๆ แจงก็บ่นว่า เซ็ง 
ทำไมอ่ะ พอเป็นงานแฮนด์เมด แล้วต้องขายให้ถูกกว่าของที่สั่งนำเข้ามาจากนอกเหรอ?
งานแฮนด์เมดมันมีข้อดีตั้งเยอะแยะ งานแบบนี้มีทำออกมาขายน้อยทำให้ชุดไม่โหล
งานของแต่ละคนที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ้าคนที่เคยเข้าไปดูร้านต่างๆในetsy.com คงพอรู้
มีงานทำชุดแฮนด์เมดของคนจากทั่วโลกมาลงขาย หลายหลากดีไซน์และหลากหลายฝีมือ
เสน่ห์ของงานแฮนด์เมดคือ เราจะได้รับรู้ถึงความใส่ใจในการทำของคนคนนั้น
ของแบบนี้ถ้าทำไม่ดีก็อยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้าเจ้าไหนที่เค้าทำขายกันมานานๆ มีfeedback ดีๆ
มันก็บ่งบอกคุณภาพงานอยู่แล้ว  เราไม่ได้จะบอกว่างานเรากับแจงดีเลิศเพอร์เฟค
ไร้ที่ตินะ เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น คงไม่เอาตัวเราไปเทียบกับ
งานขั้นเทพที่เค้าดังๆ ขายชุดละ 3000-4000 บาท อย่าง Squeakymonkey
หรืองานชั้นครูอย่าง Poupée mécanique  ที่งานเค้ามันระดับมาสเตอร์พีซจริงๆ
เราแค่เป็นคนทำชุดเพราะใจรัก ทำแล้วมีความสุข และใส่ใจกับทุกชุดที่เราทำ
เวลาได้รับข้อติข้อแนะนำจากลูกค้า เราก็พยายามเอามาปรับปรุงงานให้ดีขึ้นตลอดเวลา
ชุดตุ๊กตาที่เราทำชุดนึงเราใช้เวลาเย็บเป็นชั่วโมง (ถือว่าช้ามากนะเนี่ย) แค่อยากให้เค้า
รู้ว่า กว่าคนทำชุดจะคิดแบบ ขึ้นแพทเทิร์น ลองตัดชุดต้นแบบ หาอุปกรณ์
ไหนจะลงทุนซื้อจักรเย็บผ้า  หาซื้อผ้าดีๆ ลูกไม้ดีๆ มาทำชุด ถ่ายรูปลงเว็บ
แล้วแถมยังต้องจ่ายเงินให้เว็บ ทำแพ็คเก็จสวยๆ ทุกอย่างมันต้องลงทุนลงแรงลงใจ
เอาเถอะนะ จะพยายามทำใจไม่ให้คิดมาก แค่อยากจะบ่นเฉยๆ เท่านั้น...
---
ปล.โชคดีที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราทั้งคนไทยและคนต่างชาติๆ น่ารักๆ ทั้งนั้น
เราแค่เซ็งนิดหน่อยกับคนบางคนที่ไม่เห็นคุณค่าของงานเท่านั้นแหล่ะนะ



ชุดนี้เราขายไปให้ลูกค้าคนฝรั่งเศส ราคารวมส่ง 18$ =ประมาณ 600 กว่าบาท


ชุดนี้ขายฝรั่ง ราคารวมส่ง 17$=ประมาณ 580 บาท ขายคนไทย 300 บาท


ชุดนี้ขายฝรั่ง 15$=ประมาณ 500 บาท ขายคนไทย 250 บาท



ชุดเดรส DARK FAIRY ฝีมือน้องแจง ลงขายในเว็บetsy ของเรา
ขายฝรั่งราคารวมส่ง 18$=ประมาณ 600 กว่าบาท ขายคนไทย ประมาณ 450 บาท

Lati:มินิอัลบั้ม-โทฟุริมรั้ว

จะโผล่มาทำม้ายยยย



ได้วิกโมแฮร์ Latidah มาตั้งนานแย้ว >_< ' แต่ไม่มีเวลาถ่ายรูปซะที วันนี้ตอนสายๆ
แสงในสวนกำลังสดใสเลยพามากดรูปซะหน่อย พอดีว่าคุณนายแม่ของเราเพิ่งแต่งสวนใหม่
นางเอารั้วสีขาวเล็กๆ มาปักริมสนามหญ้าขนาดย่อมหน้าออฟฟิศ เลยให้โทฟุมาถ่ายรูปมุมนี้
โทฟุยังคอนเฟิร์มว่าแมน 100% นะก๊าบบบบบ และคอนเฟิร์มด้วยว่าเลิกเจ้าชู้แล้ว
จากนี้ไปโทฟุจะรักแต่วิเวียนคนเดียว(เค้าคิดไปเองคนเดียววิเวียนไม่รู้เรื่องด้วยหรอก)
แต่วันนี้ต้องกลับมาแต่งสาวอีกครั้งเพราะมี๊อยากลองวิกโมแฮร์น้า แถมใส่แล้วน่ารักโฮกกกก
ใช่ป่าวๆๆ?

Blythe:ยังเห่อซูเคร่ไม่เลิก..อิอิ

กล้องโลโม่ฟิชอายที่เพิ่งซื้อมาใหม่ กับนาฬิกาข้อมือของน้องค่ะ เท่ป่าว?


ขออภัยที่ช่วงนี้เห่อเด็กคนนี้มาก ขออัพรูปอีกซักทีนะคะ
พอดีว่าอยากอวดกล้องฟิชอายกับนาฬิกาข้อมือของซูเคร่ด้วย
แล้วก็อยากเอามาให้ดูว่าพอสระผมแล้วทรีทเม้นท์ผมรอบนึง
ผมหายเหนียว หายฟู ดูเป็นลอนขึ้นเยอะเลย เธอแต่งตัวหวานขึ้นจริงๆ
ชอบMSRตรงที่สีผมเค้าหวานทำให้แต่งตัวสีสันสนุกมากๆ

Blythe : Miss Sally Rice ลูกสาวคนที่10มาแล้ว

Mademoiselle Sucre หรือน้องMSR ลูกสาวคนที่ 10 ของเรา
มาส่งที่ออฟฟิศเราวันนี้ค่ะ ตอนรับกล่องไปรษณีย์ตื่นเต้นม๊ากกกกกกก
เพราะรอมาหลายวัน เลยขอทำการ์ตูนแกะกล่องน้องหน่อยนะคะ
จากที่เปิดให้เพื่อนๆโหวตกันในMultiply และFlickr ผลออกมาเสมอกัน
ระหว่างชื่อ Icie กับ Sucre ตอนแรกตั้งใจจะให้น้องชื่อไอซี่ค่ะ
แต่พอแกะกล่องเอาเค้ามาลองเปลี่ยนเสื้อผ้า ลองถ่ายรูปก็รู้สึกว่าเค้าหว๊านหวาน
จนน้ำตาลเรียกพี่ งั้นก็ให้ชื่อซูเคร่ไปก็แล้วกัน(Sucre เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่าน้ำตาลค่ะ)
มาดมัวแซลซูเคร่คนสวยในกล่องสภาพครบถ้วนสวยงามไร้ตำหนิ กล่องใส่น้องก็เรียบร้อยดี
ลองเปลี่ยนสีตา กลไกตาก็ใช้งานได้ดีปกติไม่ติดขัด แต่สิ่งที่คิดไว้แล้วว่าต้องเจอ
ก็เจอจริงๆ ก็คือ สภาพผมน้องที่ทั้งเหนียว ทั้งหยิกหยอง ฟูฟ่องเกินบรรยาย เดี๋ยวเราจะเอาเค้า
ไปทรีทเม้นท์ผมซักรอบนะคะ ถ้าออกมาแล้วเป็นไงจะถ่ายรูปให้ดูอีกที เค้าว่ากันว่า
ถ้าใครได้น้องMSRที่ผมสวยสภาพดีออกจากกล่อง เปรียบเสมือนถูกหวยรางวัลที่ 1 เลยทีเดียว
เราก็เลยทำใจได้ว่าต้องเจอแบบนี้ แต่ดูแล้วก็ไม่ได้ลำบากเกินจะแก้นะ วันนี้มอบหน้าที่
ให้เวอโรนิกกับแซมมี่สาวผมสวยประจำบ้านมาต้อนรับน้อง ซูเคร่ค่ะ

Mini Meeting > Farewell :กวางน้อยไปUK

อันนี้คือยังถ่ายเก็บมาไม่หมดนะคะ


รู้จักกันมาปีนึงหนิทหนมกันพอสมควร จนรวมกัวกันเป็นกลุ่มก้อน เจอกันบ่อยๆ แทบทุกอาทิตย์
แต่แล้วหนูกวาง จะไปเรียนที่อังกฤษ ทิ้งเจ๊ๆ ให้เล่นตุ๊กตากันแบบเหงาๆ ที่เมืองไทยกันซะแล้ว
รู้เลยว่าเมื่อกวางไปกลุ่มเราก็คงจืดชืดไปเยอะ แต่ก็ยังดี อย่างน้อยคงได้เห็นเด็กๆบ้านกวางไปเดินเที่ยวเล่น
มีรูปน่ารักๆจากอังกฤษมาให้ป้าๆ หายคิดถึงได้บ้าง วันนี้พวกเรานัดมีทติ้งเล็กๆ 10 กว่าคน
ที่ร้านบ้านก้ามปู นวมินทร์ คือแม่ๆไม่กี่คน แต่เด็กเนี่ย เยอะม๊ากกกกกกกกกกกก จนไม่ได้นับ
แถมยังหลายสายพันธุ์สุดๆ เม้าท์ไปหม่ำเค้กกับกาแฟไป เล่นไปถ่ายรูปไป หนุกมากๅๅๅๅๅ
อัลบั้มเราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปคนเลยอ่ะ แค่ถ่ายเด็กๆก็เหนื่อยแย้ว >_< ' แต่ก็เห็นของหลายๆคนถ่ายไว้
งั้นรูปคนเอาไว้รอดูในอัลบั้มของคนอื่นๆนะค้า ทีนี้ก็จะลองเล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อกวาง น้องสาวคนนี้ซะหน่อย
รู้จักกันมา ปีนึงพอดิบพอดีเลยนะ ได้คุยกันผ่านมัลติพลายก่อน แล้วก็ตอนที่เราทำชุดเซ็ทแรกขาย
กวางก็ซื้อแล้วบอกว่ากวางอยู่ใกล้มากเลย เดี๋ยวกวางขอเข้าไปรับชุดเองเลยที่ออฟฟิศเราแล้วกันเราก็เลยได้คุยกัน
โลกนี้มันช่างกลมจริงๆ เรามารู้ว่ากวางรู้จักกับน้องชายของเรามานานแล้ว เพราน้องชายเราต้องติดต่องาน
กับพ่อของกวางตลอดเวลา แล้วแจงกี้ที่เล่นตุ๊กตาด้วยกันกะเราก็รู้จักกวางมาก่อนเพราะแจงกี้เป็นแฟนของน้องชายเรา
แต่ต่างคนต่างไม่รู้ว่าเล่นตุ๊กตาเหมือนกัน พอเจอกันก็เลยคุยกันถูกคอ แล้วเริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ เราชอบในความ
ที่กวางรักตุ๊กตาแบบจริงๆจังๆ อยากได้ตัวไหนยังไงกวางจะขยันหาข้อมูลมากๆ มีอะไรก็พร้อมที่จะช่วย
เหลือทุกคน (เด็กอะไรใจดีจริงจริ๊ง) ตอนที่เราอยากได้Latiตัวแรก ก็มารู้ว่ากวางก็สั่งเหมือนกันกวางก็เลยช่วยสั่งให้
ดังนั้นเด็กๆLatiของเราและกวางและแจง คือลูกพลับ,โทฟุ,วิเวียน เลยเกิดพร้อมกัน เพราะมาด้วยกัน
พี่สนุกมากนะเวลาเราเจอกันทุกเสาร์เม้าท์ๆกัน ไปกินข้าวด้วยกัน หรือเวลาที่เม้าท์กันมันไม่ยอมเลิก
สุดท้ายก็ไปเม้าท์ไปเล่นกันต่อที่คอนโดของกวาง บางทีเพลินจนโดนสามีดุเลย 555
เอาล่ะน้าก็ขอให้กวางโชคดีเรียนให้สนุก ได้ประสบการณ์ดีๆกลับมาเมือวไทยนะน้องนะ
รักนะเด็กฉลาดดดดดด จุ๊บๆ

รักแรกพบ....ที่เป็นรักแท้

บ้านเรามีเด็กๆเต็มบ้าน แต่รู้มั้ยมีเด็กคนเดียวที่เรารักมากสุด รักมาตลอด
ไม่เคยเปลี่ยนแถมรักมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใครที่สนิทๆกันน่าจะเดาถูกนะ
เด็กคนนี้เป็นบลายธ์ตัวที่ราคาถูกที่สุดในบ้าน และถูกเราคัสตอมบ่อยที่สุด
ตอนนี้เธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วด้วย.....นึกออกหรือยัง?
หนู Reese ที่รักยังไงล่ะ(อ่านบล็อกเปิดตัวหนูรีสคลิกที่นี่ค่ะ) ^_^ ไม่รู้ทำไมนะ
รักเค้ามากๆมองยังไงก็ไม่เบื่อเลยอ่ะ วันนี้เลยอยากจะเล่าเรื่องราวของรีสกับเราให้เพื่อนๆ
ได้รู้จักลูกสาวสุดรักของเราคนนี้ดูบ้าง หนูรีสเป็นน้องบลายธ์ตัวที่สองที่เราซื้อมาค่ะ
(ตัวแรกคือAmelie) รีสเป็น Prima Dolly Saffy Encore (วันคลอดของรีสคือ 6 พ.ค. 51)
เราซื้อเค้ามาจาก บ้านlovelyblythe เป็นตัวนู้ดราคาตอนนั้น 2600 บาท
เราอยากได้ Saffy อยู่แล้ว แต่เมื่อก่อนตอนเล่นบลายธ์ใหม่ๆ เราจะรู้สึกว่า
น้องตัวละ 3000 กว่าบาท แพงเกินไป! (555 เดี๋ยวนี้ตัวละหมื่นก็ซื้อกันเนอะ)
เลยยังไม่ยอมซื้อ จนตอนนั้นปุ๋ม(sunkiss)เขียนบล็อกว่าจะสั่งซื้อAubrey
(หรือน้องน้ำส้มคนดังของปุ๋มนั่นเอง) มีใครจะแชร์ค่าชุดมั้ย? แล้วปุ๋มก็ส่งลิ้งค์มาให้ดู
เราก็เลยตามลิ้งค์ไป แล้วไปเจอว่าเค้าขายนู้ด Saffy แค่ 2600
ก็เลยสั่งซื้อไปทันที ตอนช่วงที่เล่นใหม่ๆ สามียังไม่สนับสนุน พอเค้ารู้เค้าก็ดุเรานะ
ไหนว่าจะมีแค่ Amelie ตัวเดียวไง? แต่ไม่ทันและสั่งไปแล้ว จ่ายตังค์ไปแล้ว

รูปนี้คือรูปวันแรกที่หนูรีสมาถึงบ้านเราค่ะ มาแบบโป่โป๊เลยเนอะ
พอเห็นเค้าครั้งแรกก็ชอบเลย ชอบผมเค้าสวยมากๆ เมคอัพสีแปลกไม่เหมือนใคร


ตอนมาแรกๆ ก็ไม่ได้คัสตอมอะไรมาก แค่ติดขนตาอย่างเดียว


แล้วก็เปลี่ยนอายชิพสีชมพูที่มองตรงออกกลายเป็นสีน้ำทะเลเข้ม
ที่เป็นตาเอกลักษณ์ของรีสจนถึงทุกวันนี้เลย เมื่อก่อนเราทำอะไรไม่เป็นเลย
คนที่เปลี่ยนอายชิพคู่แรกให้รีส คือน้องผึ้งที่รับคัสตอมประจำอยู่ร้านพี่เอ๋โมเน่
แล้วตอนนั้นเราก็ติดขนตาลางด้วยก็ดูน่ารักแบบสไตล์ย้อนยุคดีนะ


แต่เพราะผมเค้าที่เป็นผมแสกข้าง โชว์หัวเหม่งใสแจ๋ว เวลาถ่ายรูปเค้าจะถ่ายยากมาก
หัวเค้ามันสะท้อนทุกอย่างรอบตัวหมดเลยอ่ะ  เราก็เลยสุดจะทนลงมือจับรีสคัสตอม
เป็นตัวแรกของบ้านเลย ไม่มีใครสอน ไม่เคยถามใคร หาข้อมูลในเว็บแล้วลงมือทำเองเลย
คัสตอมครั้งแรกขอบอกว่าประหลาดมากๆ เพราะเราเพ้นท์ขนตาล่างเค้าหนาไป
ทาสีปากเข้มเกินไป (อ่านบล็อกคัสตอมน้องรีสครั้งแรกคลิกที่นี่ค่ะ) แต่ที่ชอบมากๆ
คือกระที่หน้าของเค้าที่ทุกวันนี้กระนั้นก็ยังอยู่ เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของรีส

ความฮาคือ ตอนนั้นไม่รู้จัก MSC หรอกนะ อ่านในเว็บเค้าบอกให้ใช้Clear เราก็ไม่รู้
ไปซื้อClear สูตรด้านแบบที่เค้าใช้พ่นรถเป็นกระป๋องๆอ่ะเอามาใช้เลยคือขัดเสร็จก็พ่นเลย
ผลออกมาก็ดูเป็นผิวด้านนะ แต่ด้านแบบไม่เหมือนพ่นด้านด้วยMSC  แต่พอตอนหลัง
พอคัสตอมเป็นแล้วเราพ่นMSCลงไป ทำให้ผิวหน้าของรีสดูมีเท็กซ์เจอร์นิดๆ
เหมือนผิวคนเลยล่ะ (ตรงนี้ด้วยที่ทำให้รีสดูสวยไม่เหมือนใคร เราไม่เคยเห็นผิว
เด็กคัสตอมตัวไหนเหมือนผิวของรีสเลยนะ....ชอบจังเลย!)

หลังจากนั้นก็ตัดผมม้าให้หนูรีสด้วย


ต่อมาเราเริ่มหาข้อมูลการคัสตอมมากขึ้น  คิดว่าจะคัสตอมทั้งAmelie
และจะคัสตอมหนูรีสใหม่อีกรอบปรับปรุงให้หวานขึ้น คราวนี้ดีหน่อย
ถือว่าทำแล้วพอใช้ได้ทั้งหนูอามิลี่และหนูรีส (ชมตัวเองไว้ก่อน แห่ะๆ)
(อ่านบล็อกคัสตอมครั้งนั้นคลิกที่นี่ค่ะ)

ขั้นตอนการทำรอบ 2
1.คงสีเปลือกตาที่เพ้นท์ลายดอกไม้ไว้
2.เปลี่ยนอายชิพเพิ่มอีก 1 คู่ (เอาสีส้มออริจินอลมาเพ้นขอบดำ)
3.ติดขนตาใหม่ให้หนากว่าเดิม
4.เพ้นสีรอบตาใหม่+ลบสีเพ้นท์ใต้ตาออก สีแก้มใหม่
5..เจาะปากเพิ่มเพ้นท์สีปาก+กลอส
7.ทำผิวด้านด้วยสเปรย์ MSC
8.ทำสลีปปิ้งอายส์

จากนั้นหนูรีสก็อยู่ในลุคนี้อยู่นานหลายเดือนเลยเพราะชอบมากๆ
ผมสีทองสวยๆของหนูรีสเริ่มเสียพันกันเป็นก้อนทรีทเม้นยังไงก็ไม่สำเร็จ
โปรเจ็คท์เมคโอเวอร์หนูรีสรอบ 3 เลยเกิดขึ้น คราวนี้เราเลาะผมเก่าออก
แล้วเย็บผมใหม่ติดเข้าไป เป็นผมดำยาวตรงสวยมากๆ ตอนนั้นก็หาข้อมูลการ
เย็บผมเองพอลองทำดูถึงรู้ว่ามันก็ไม่ยาก แต่ต้องขยัน และยอมเจ็บมือหน่อย
แลกมากซึ่งความงามของลุกสาวสุดรักยังไงก็ย๊อมยอม ^_^


555 เด็กโดนถลกหนังหัวค่ะ สยองมั้ยคะ?
เย็บผมออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ สวยม๊ากกกกกกกกกเนอะๆๆๆ
เราเพ้นท์เปลือกตาและสีเมคอัพรอบตาเป็นแบบสโมคกี้อายส์
ติดขนตาให้หนาขึ้นอีก (ขนตาหนูรีสติดทั้งหมด 3 ชั้นนะเชื่อมั้ย?)


เท่านั้นยังไม่พอพอถึงเดือนตุลาช่วงวันฮัลโลวีนเราก็มีนัดมีทติ้งกัน
ให้เด็กๆแต่งตัวเป็นผี เราอยากให้รีสดูเหมือนWednesdayในหนังเรื่อง
The Adums Family ก็เลยเปลี่ยนบอดี้หนูรีสเป็นบอดี้Licca
แล้วลบสีปากเดิมออกให้ดูซีดๆ แบบนี้ค่ะ เท่เชียวเนอะ


ปัจจุบันนี้หลังจากผ่านมีทติ้งมาแล้วเราก็ลงสีปากให้ดูเป็นสีชมพูอมส้ม
แบบธรรมชาติ ลงกลอสหนาๆให้ปากดูชุ่มชื้น ก็คือหนูรีสในลุคล่าสุดนี่ล่ะ


คิดว่าจบแล้วจะไม่คัสตอมอะไรเค้าแล้ว เพราะเป็นลุคที่เราชอบที่สุด
แต่งตัวอะไรก็ขึ้นไปหมดเลย ไม่เคยคิดว่าเราจะรักตุ๊กตาตัวไหนได้เท่านี้เลยนะ
คือเหมือนกับว่าเราผูกพันอ่ะ และเราก็เล่นกับเค้าบ่อยที่สุด เวลาก่อนนอน
ก็ต้องหยิบเค้ามาเล่นก่อน(บางทีเค้าก็นอนบนหมอนเราจนเราหลับไปทั้งอย่างนั้น)

ไปไหนก็จะเอาไปด้วยบ่อยที่สุด เหมือนเป็นลูกสาวเราจริงๆเลยล่ะ
เราชอบมองเค้าเวลาเอาเค้ามาตั้งที่โต๊ะทำงาน พอเพลินๆก็เอามานอนที่ตัก
คนไม่รักตุ๊กตาอาจจะไม่เข้าใจ อย่างที่บอกนะ เค้าเป็นรักแรกพบที่เป็นรักแท้
ของเราเลยหล่ะ .....แม่รักหนูรีสนะจ๊ะ...ลูกสาวคนสวยคนดีของแม่

จบด้วยภาพสุดสวีทของรีสกับมาตะคุงค่ะ

Lati:เด็กหญิงน้อยผู้บอบบาง

เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ เธอช่างแสนบอบบาง สุขภาพของเธอก็ไม่ค่อยดี
ร่างกายที่แสนอ่อนแอของเธอเจ็บออดๆแอดๆ ทำให้ต้องอยู่ในโรงพยาบาลตลอดเวลา



หนูน้อยคนนี้แสนสุดจะเหงา ทุกวันชีวิตของเธอวนเวียนอยู่แต่ในห้องสีเหลี่ยมสีขาวนี้



เธอได้แต่คิดว่า เมื่อไหร่เธอจะได้ออกไปวิ่งเล่นสนุกสนานเหมือนเด็กคนอื่นๆ บ้าง



วันไหนที่เธอเบื่อ เธอจะชอบนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง
เพราะหวังว่าจะช่วยให้เธอคลายเหงาได้บ้าง
.
.
.
.
.
.
.
.
.


โทฟุ : โอ้ยยยยย พอเหอะหม่ามี๊...! ฟุขี้เกียจแสดงละคร แย้ว!  >_< '
หม่ามี๊ : อ้าว? อะไรล่ะ กำลังสนุกเลย เลิกเล่นแล้วเหรอ น้ำเน่าดีออก
โทฟุ : ม่ายอาวแล้ว...มี๊มาเยี่ยมป๊ะป๋าไม่ใช่เหรอ แล้วไหงเอาแต่เล่นอยู่ได้
หม่ามี๊ : นั่น...งานเข้าแล้วสิ โดนเด็กด่าอ่ะ


โทฟุ : ทุกคนจ๋า ป๊ะป๋าของโทฟุไม่ฉะบาย เป็นไข้หวัดใหญ่ต้องเข้าโรงพยายาม
หม่ามี๊ : เค้าเรียกโรงพยาบาลจ๊ะ...เรียกให้ถูกๆ หน่อย



โทฟุ : ดูจิป๊ะป๋าเป็นไข้ตัวร้อนต้องนอนให้น้ำเกลือตั้งหลายวัน ฟุฉงฉานป๊ะป๋ามากเยย
แต่หนูก็จาให้กำลังใจป๊ะป๋าให้ป๊ะป๋าหายเร็วๆนะ




ป๊ะป๋า : สู้ๆคร้าบบบบ โชคดีที่มาถึงคุณหมอเร็ว รักษาเร็ว แค่วันเดียวไข้ก็ลดลง
อีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วคร้าบ
โทฟุ  : ป๊ะป๋าเก่งจังเยย เย้ๆ



หม่ามี๊ : โทฟุ...หม่ามี๊ว่านะป๊ะป๋าไม่เป็นไรมากหรอก
คนป่วยหนักที่ไหนกันนอนอ่านการ์ตูน เนกิมะ กองเป็นตั้งเลย
แถมอ่านไปขำกลิ้งคาเตียงอีกด้วย เดี๋ยวก็วิ่งปร๋อแล้วล่ะ
ป๊ะป๋า : แห่ะๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เหตุการณ์ในวันนี้เราอยากจะบอกเพื่อนๆว่า คุณแฟนเราเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา
โชคดีที่ไม่ใช่หวัด 2009 และตอนนี้ก็หายแล้ว กลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านแล้วค่ะ
โชคดีที่พอเป็นไข้แล้ว ไปพบหมอทันที ส่วนเราที่เป็นคนเฝ้าไข้ก็สบายดีค่ะ
เราทำตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำทุกอย่าง หมั่นล้างมือ กินวิตามินซีเยอะๆ
ดื่มน้ำเยอะๆ นอนให้เพียงพอ และไม่สัมผัสคนป่วยใกล้ชิดจนเกินไป ระมัดระวัง
เรื่องการหยิบจับข้าวของสาธารณะเลี่ยงได้ก็เลี่ยง และต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
แค่นี้ก็ปลอดภัยจากโรคระบาดแล้วค่ะ  ดูแลสุขภาพกันนะคะทุกคน
-----------------------------------------------------------------------------
จบบริบูรณ์
.
.
.
.
.
Staring
หนูน้อยผู้บอบบาง แสดงโดย โทฟุ
ป๊ะป๋า แสดงเป็นตัวประกอบ
เสื้อผ้าโทฟุ ตัดโดยสุดยอดคอสตูมดีไซนเนอร์  หม่ามี๊ นั่นเอง
กำกับการแสดงโดย หม่ามี๊

Blythe : ลูกสาวคนที่ 10!!!

อ่ะโหวตกันนะค้า
A.Icie - ผมเค้าสีเย็นๆ เลยนึกถึงชื่อนี้
B.Cloudy - อันนี้คุณสามีเรานำเสนอ น่ารักดีนะเนี่ย
C.Basil - กะเพรา ไม่มีที่มาอะไร แค่ตอนนั่งคิดชื่อรู้สึกอยากกินผัดกะเพรา
D.Sucre -อ่านว่า ซูเคร ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า น้ำตาล เพราะสีเธอหวาน

555 สุดท้ายก็อั้นไม่ไหว ทั้งที่ตั้งใจว่า น้องLati Yellow Lea ที่เพิ่ง
Preorder ไปรอบนี้ จะเป็นตัวสุดท้ายของปีนี้ (ตั้งใจไว้ว่าปีนี้ เอาแค่ 3 ตัวพอ
แต่ตั้งแต่ต้นปีมา คลอดมาครบแล้ว 3 ตัว คือ ค็อตต้อน น้อง Blythe Hollywood
โทฟุ Lati Yelow SP. Miel และน้อง Lati Yellow Lea) เท่ากับว่า หมดโควต้า
ที่เราตั้งลิมิตไว้แล้ว แต่อารมณ์กรุ่นๆตะหงิดๆ อยากได้ Blytheตัวใหม่อยู่ในใจ
มันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็อั้นไว้ไม่ไหว ตัดสินใจสั่งซื้อไปแล้วเรียบร้อย
นั่นก็คือ Neo Blythe Miss Sally Rice นั่นเอง ตั้งแต่ตอนน้องออกวางขายก็อยากได้
จนน้องติดอันดับวิชลิสท์มาแล้ว แต่เราก็อั้นๆไว้ จนตอนนี้ราคาขึ้นมาอีกเท่าตัว
สุดท้ายก็สั่งไปจนได้ ลูกสาวคนนี้ เป็นคนที่ 10 ในเด็กตระกูลBlythe แต่เป็นคนที่
23 เมื่อนับรวมเด็กๆบ้าน LittleAmelie ทั้งหมด ครอบครัวนี้เริ่มจะใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
ถึงจะไม่ได้ใหญ่โตเท่าอีกหลายๆคน แต่เราก็รู้สึกว่าบ้านนี้อบอุ่นจังเลย เด็กๆ ก็
น่ารักมีบุคคลิกเป็นของตัวเอง มีเสน่ห์กันคนละแบบ อัลบั้มนี้เลยเอาเด็กๆมาโชว์
profile ของแต่ละคนกันค่ะ รวมทั้งขอให้เพื่อนๆช่วยโหวตชื่อให้ลูกสาวคนที่ 10
ของเราหน่อยนะ รอน้องมาถึงก็จะทำอัลบั้มทำคลอดอีกทีน้า ตอนนี้ตั้งชื่อรอไปก่อน

อ่ะโหวตกันนะค้า
A.Icie - ผมเค้าสีเย็นๆ เลยนึกถึงชื่อนี้
B.Cloudy - อันนี้คุณสามีเรานำเสนอ น่ารักดีนะเนี่ย
C.Basil - กะเพรา ไม่มีที่มาอะไร แค่ตอนนั่งคิดชื่อรู้สึกอยากกินผัดกะเพรา
D.Sucre -อ่านว่า ซูเคร ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า น้ำตาล เพราะสีเธอหวาน

Lati:ไอ้นี่มัน ก.ข.ค. จริงๆ

ป๊ะป๋า : เค้าเรียกว่า เอเวอเลสเว้ย แล้วนี่อะไรอ่ะ หาว่าไหล่ตูเป็นยอดเขา เหนี่ยวมันซักทีดีมั้ย

วันนี้มี๊กับป๊ะป๋าออกไปทำบุญที่วัดแล้วก็กะว่าจะไปออกเดท กินข้าว ดูหนัง ช็อปปิ้ง
โทฟุก็ขอตามไปด้วย แบบว่า ช่วงนี้ตัวแสบมันติดหม่ามี๊มากๆ ขอออกไปด้วยทุกวัน
มี๊ก็ทนสายตาเว้าวอนไม่ไหวต้องพาไป ป๊ะป๋าบ่นว่า จะไปด้วยทำไมเนี่ย
ไอ้เด็ก ก.ข.ค. ป๊ะป๋าจะไปเดทกะหม่ามี๊ตามลำพังมั่งก็ไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ใจอ่อน
ยอมให้ตัวแสบติดสอยห้อยตามมาด้วย อิอิ เบื่ออ่ะ จะไปจู๋จี๋กันตามประสาวัยรุ่นมั่งก็ไม่ได้
มีลูกแล้วก็งี้แหล่ะ 555 ว่าไปเรื่อย ^_^

คลั่งอ่ะ ^_^'

วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร ขนลูกๆ มาออฟฟิศจนเต็มโต๊ะไปหมดเลยอ่ะ
เห็นว่า ฮาดีเลยเอามาให้ดูกัน ว่าเรานี่มันคลั่งตุ๊กตาจริงๆนะ
แต่พูดถึงนะ นั่งทำงานไป เห็นหน้าเด็กๆ ไปก็ช่วยคลายเครียดได้ดีทีเดียว

นับดูดิ๊ว่ามีทั้งหมดกี่ตัว 555
.


ต้นข้าวเองค่าาาาาาาาา เห็นบางคนบ่นๆว่า ต้นข้าวหายไปไหน
จริงๆก็ไม่ได้หายไปไหนนะคะ อยู่บ้านหม่ามี๊ก็แต่งตัวเริ่ดๆให้ต้นข้าวใส่ตลอด
วันนี้มี๊พามาออฟฟิศด้วย ต้นข้าวขอเริ่ดหน่อยน้า อิอิ
.


สาวๆวันนี้ก็มาแนวแฟชั่นจัดๆ กันทู้กกกกกคน
เริ่มด้วยไทร่าในชุดแนวร็อคๆ คลอเดียกับจั้มพ์สูทเท่ๆ หนูมินิน่ารักหวานแหวว
.


คู่นี้ขาดกันไม่ได้ ถ้าจะพา รีสมา ก็ต้องมีมาตะคุงมาด้วย
วันนี้เค้าออกแนวเซเลบเกาหลีทั้งคู่เลย เริ่ดมั้ย?